Aesthe Holdings Co., Ltd.
โดยปกติจะตอบกลับภายในไม่กี่ชั่วโมง
เอสเธ่คลินิกยินดีต้อนรับ
เริ่มแชท
ในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการใช้ ฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็ม ในการปรับรูปหน้า ในการแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆบนใบหน้า 
image

สารบัญ

  • ฟิลเลอร์ คืออะไร?
  • ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ 
  • ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?
  • Customer Review
  • ข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์
  • อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
  • ฟิลเลอร์ปลอดภัยไหม?
  • ทำไมต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์ 

ฟิลเลอร์ คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สาร Hyaluronic Acid หรือ HA เป็นสารที่เลียนแบบสารในร่างกาย เมื่อฉีดแล้วจึงสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนใบหน้า ช่วยเต็มเติมใบหน้า ใต้ตา ร่องแก้ม ปากฯ ให้เต่งตึง ช่วยปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น ทำให้หน้าดูเด็กลง ริ้วรอยและรอยหมองคล้ำดูจางลง ทั้งยังช่วยในเรื่องการชะลอวัยได้อีกด้วย

การฉีดฟิลเลอร์ที่ดีนั้น จะต้องฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์นั้น มีวิธีการหลากหลายวิธีตามแต่ตำแหน่งความลึกตื้น ที่ต้องการให้ฟิลเลอร์ไปแทรกตัวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดในชั้นตื้น การฉีดในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง หรือฉีดบริเวณเหนือกระดูก เพื่อช่วยดามให้เอ็นที่เกาะกับกระดูกยืดตึงขึ้น เป็นต้น ดังนั้น แพทย์ที่มีความรู้เรื่องโครงสร้างใบหน้าและชั้นผิว จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน

 

   

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ 

โดยทั่วไปการรักษาด้วยฟิลเลอร์ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ฟิลเลอร์จะถูกฉีดด้วยเข็มขนาดเล็กใต้รอยย่นหรือบริเวณที่ผิวขาดความอวบอิ่มและจะช่วยเติมผิวใต้บริเวณดังกล่าวโดยสามารถเห็นผลลัพธ์ที่สังเกตได้ทันทีในผู้รับการรักษาส่วนใหญ่

ซึ่งผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับความลึกของริ้วรอยหรือปริมาตรของความบกพร่องที่จะรักษา หากท่านมี ความไวต่อความรู้สึก แพทย์ของท่านอาจใช้ยาชา โดยทั่วไปท่านจะรู้สึกขณะลงเข็มเท่านั้น อาการเลือดออกอาจเกิดขึ้นเล็กน้อยในระหว่างการฉีดแต่จะหยุดทันทีภายหลังการรักษา ผิวบริเวณที่ถูกฉีดอาจแข็งตัวหรือเปลี่ยนสี โดยอาการดังกล่าวจะหายไปในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อแพทย์ฉีดสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนวดและปรับแต่งตามความต้องการของท่าน 

ผลลัพธ์ของการรักษาจะคงอยู่เป็นระยะเวลานานแต่จะไม่คงอยู่อย่างถาวรเนื่องการกระบวนการย่อยสลายทางชีวภาพตามธรรมชาติ ดังนั้น ท่านจึงสามารถตัดสินใจได้ว่าท่านต้องการรับการรักษาซ้ำหรือไม่เมื่อใดก็ตาม 

image
image

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?



ฟิลเลอร์ขมับ 


ฟิลเลอร์ขมับ คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปช่วยเติมเต็มในบริเวณขมับที่เป็นแอ่งลึก ปรับใบหน้าโดยรวมให้ดูสมมาตรมากขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด

การฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อแก้ไขปัญหา ได้แก่ ปัญหาขมับตอบ, ขมับลึก, ขมับเป็นแอ่ง 

 

ฟิลเลอร์ Midface

 

ฟิลเลอร์ Midface คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปช่วยเติมเต็มในบริเวณ ตรงบริเวณใบหน้าส่วนกลาง ตั้งแต่ใต้ตาจนถึงเหนือริมฝีปากที่เป็นแอ่งลึกลงไป

การฉีดฟิลเลอร์ Midface เพื่อแก้ไขปัญหาโหนกแก้ม, ร่องมุมปาก, แก้มตาบน, ร่องน้ำตา, ร่องแก้มข้างคาง และพวงแก้ม

 

ฟิลเลอร์แก้ม

 

ฟิลเลอร์แก้ม คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปช่วยเติมเต็มในบริเวณแก้มที่ยุบลงเป็นแอ่งบนใบหน้า 

การฉีดฟิลเลอร์แก้ม เพื่อแก้ไขปัญหาแก้มตอบจากพันธุกรรม มีโหนกแก้มสูง, แก้มตอบจากน้ำหนักลดลง, แก้มตอบจากการจัดฟัน

 

ฟิลเลอร์ใต้ตา

 

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปช่วยเติมเต็มในบริเวณใต้ตา ลดปัญหารอยดำ ร่องลึก ถุงใต้ตาเรียบตึงขึ้น เมื่อกระดูกใต้ตายุบตัวลงทำให้เนื้อบริเวณใต้ตานั้นทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ดูโทรม ไม่สดใส

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ไขปัญหารอยคล้ำใต้ตา, กระดูกบริเวณใต้ตาที่ยุบตัวลง, ร่องลึกใต้ตา

 

ฟิลเลอร์ปาก 

 

ฟิลเลอร์ปาก คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปช่วยเติมเต็มในบริเวณเติมเต็มร่องปากให้ดูอวบอิ่ม ยกมุมปากให้เป็นทรงสวย

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อแก้ไขปัญหาริมฝีปากบาง แตก แห้ง เป็นร่องชัด รูปปากเป็นวีคว่ำ

 

ฟิลเลอร์คาง 

 

ฟิลเลอร์คาง คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปช่วยเติมเต็มบริเวณคางเพื่อปรับรูปหน้า ให้ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 

การฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อแก้ไขปัญหาคางบุ๋ม, คางตัด, คางสั้น, คางเบี้ยว, คางย้อย, คางกลมมน

 

ฟิลเลอร์จมูก

 

ฟิลเลอร์จมูก คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปช่วยปรับแก้ไขรูปจมูกให้ได้สัดส่วน ดูโด่ง และมีมิติมากขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์จมูก เพื่อแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก, ต้องการความเป็นธรรมชาติ, ต้องการปรับสัดส่วนของจมูก

 

Customer Reviews

ปรึกษาฟรีกับคุณหมอธี ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี กับเทคนิคที่เข้ากับรูปหน้าเฉพาะของแต่ละบุคคล ให้ความสวยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และให้ความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ที่เอสเธ่คลินิก

ข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์

  • ภายใน 12 ชั่วโมงหลังฉีด งดการนวดหน้า ขัดหน้ารวมไปถึงการแต่งหน้า ภายใน 48 ชั่วโมง หลังฉีดงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ภายใน 14 วันหลังฉีดงดอยู่ในที่ความร้อนจัดหรือความเย็นจัด เช่น อบซาวน่า แช่ออนเซ็น กลางแจ้ง

 

 

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจะคล้ายคลึงกับสารสังเคราะห์ที่สามารถย่อยสลายได้ชนิดอื่นๆ อาการเลือดออก และรอยช้ำ รอยบวมหรืออาการชาเล็กน้อยที่เกี่ยวข้อง กับการรักษาด้วยการฉีดอาจเกิดขึ้นภายหลังการรักษา แต่โดยทั่วไปจะหายได้เองการอักเสบ การติดเชื้อ การเกิดฝี การเกิดสารคัดหลั่งบริเวณแผลรอยแข็ง และการเปลี่ยนสี เล็กน้อยอาจเกิดขึ้นบริเวณที่ได้รับการรักษาหากท่านมีภาวะแผลหายช้ากระบวนการหายของแผลอาจใช้เวลานานขึ้นหากท่านพบอาการข้างเคียงบริเวณ ที่ได้รับการรักษาเป็น ระยะเวลาเกินหนึ่งสัปดาห์ ท่านควรแจ้งให้แพทย์ของท่านทราบซึ่งแพทย์จะสามารถดำเนินการรักษาอย่างเหมาะสม 



 

ฟิลเลอร์ปลอดภัยไหม?

ฟิลเลอร์เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม และวิเคราะห์ปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ และจะต้องฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานและได้รับอนุญาต เพราะหากฉีดโดนเส้นเลือดหรือบริเวณอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ทำไมต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์ 
 
ความชราตามธรรมชาติทำให้ผิวสูญเสียความอวบอิ่มและความกระชับ เกิดรอยย่น แก้มย้อยหรือความหย่อนคล้อย สัญญาณของความชราสามารถปรากฏให้เห็นบริเวณมือเส้นเลือดและเส้นเอ็นจะปรากฎชัดขึ้นอันเป็นผลมาจากการสูญเสียความอวบอิ่มของผิวเพื่อต่อต้านความชราเนื้อเยื่อที่สูญหายไป สามารถได้รับการทดแทนโดยการใช้ฟิลเลอร์ ประสิทธิภาพในการเสริมเนื้อเยื่อเกิดจากการทำงานเชิงกลของเจลที่ช่วยยกผิวและชดเชยการสูญเสียความอวบอิ่มของผิว 
 
ฟิลเลอร์ได้ถูกเลือกโดยแพทย์เพื่อตอบสนองความต้องการเชิงกายวิภาคของท่าน และเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีประสบการณ์ทางคลินิกระบุว่าผลลัพธ์ดังกล่าวจะคงอยู่ 6-18 เดือน 
ฟิลเลอร์ผลิตจากโซเดียมไฮยาลูรอเนต ชนิดมีพันธะระหว่างโมเลกุลในสารละลายฟอสเฟต และจะละลายอย่างช้าๆ เพราะสามารถทนต่อการย่อยสลายได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากกระบวกการผลิตที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งผลิตจากสัตว์ก่อนการรักษาท่านควรได้รับคำแนะนำอย่างละเอียดจากแพทย์และใช้เวลาก่อนการตัดสินใจ 


7 ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์


1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
หลังการฉีดฟิลเลอร์ไป สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งคือห้ามนวด กด รวมถึงการสัมผัสแรงๆ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีด และในบางเคส แพทย์ใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า การนวดทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้ หรือทำให้ไม่ได้ผลเลย

ทั้งนี้หากหลังฉีดฟิลเลอร์คนไข้มีอาการคันหรือระคายเคือง ห้ามเกาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบของผิวได้ หากอาการคันไม่หายไปภายใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อความปลอดภัย

2. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อน
โดยปกติแล้วในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แพทย์จะแนะนำไม่ให้ผู้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูง เช่นการเข้าห้องซาวน่า ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างที่ใครๆ พูดกัน แต่ความร้อนจะทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่องการเซตตัวของฟิลเลอร์

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไป ผิวอาจจะมีความเซนซิทีฟมากกว่าปกติ ด้วยรอยเข็มหลายๆ รูบนหน้า การโดนความร้อนอาจทำให้เกิดรอยแดง ระคายเคืองและผื่นขึ้น

3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางชนิด หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของกรดผลไม้
ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามิน เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสมและวิตามินอี ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าสารเหล่านั้นจะทำปฎิกริยาหรือส่งผลร้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่สารเหล่านั้นจะทำให้คนไข้เสี่ยงกับภาวะช้ำได้ง่ายกว่าปกติ

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวและบริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงก่อนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย

4. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด เป็นยาที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดลงไปในผิวหนังชั้นลึก ถ้าเกิดโดนเส้นเลือดขณะฉีดอาจทำให้เลือดหยุดไหลช้า ทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และไม่เสี่ยงช้ำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์

5. หลีกเลี่ยงการแว็กซ์ ถอน ย้อมสีขน หรือใช้ครีมกำจัดขน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวหนังบริเวณที่ฉีดอาจมีความบอบบางลงชั่วคราว ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งหากในระหว่างนี้ มีการกำจัดขนด้วยวิธีต่างๆ เช่น การแว็กซ์ขน ถอนขน ใช้ครีมกำจัดขน หรือทำการย้อมสีเส้นขน ก็อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีที่สุด

6. ดื่มน้ำมากๆ
ฟิลเลอร์ คือ สารไฮยาลูลอนิคซึ่งมีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำได้ดี หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 4-5 วันแรก แพทย์จึงแนะนำให้ดื่มน้ำให้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงทน เพราะการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำ มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูเต็มเป็นธรรมชาติ

7. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ แนะนำให้งดการดื่มแอลกอลฮอล์ ของมึนเมา ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะฟิลเลอร์จะสลายหรืออยู่ไม่นาน แต่เป็นเพราะคนไข้จะไม่มีสติดูแลบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไป อาจจะเผลอนวด เผลอเท้าคางได้ และการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีด อาจจะทำให้เลือดออกในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้

การสูบบุหรี่หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น สูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก อาจจะทำให้รูปลักษณ์ที่คุณหมอสร้างขึ้นมาเป็นปากกระจับอาจจะผิดรูปได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้งดเหล้า แอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อยประมาณ 2-3 วัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้