การเสริมจมูก
การเสริมจมูกแบบปิดเป็นเทคนิคการเสริมจมูกที่นิยมในไทย เนื่องจากสามารถแก้ไขปัญหาได้ เช่น ต้องการให้จมูกโด่งขึ้น ปลายเชิด ปลายพุ่ง เหมะสมกับบุคลิกของบุคคล และการเสริมเทคนิคนี้ยังใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากโดยการเสริมจมูกเทคนิคนี้ แผลในการผ่าตัดจะซ่อนอยู่ด้านในจมูก
การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)
การเสริมจมูกแบบปิดนั้น แพทย์ผุ้ผ่าต้องให้คำปรึกษา หลังประเมินโครงสร้างว่าเหมาะสมสำหรับการเสริมแบบปิดหรือไม่ เมื่อรับทราบตรงกันแล้ว แพทย์ผู้ผ่าตัดจะเหลาซิลิโคนให้เหมาะกับโครงสร้างจมูก ทำการระงับความรู้สึก โดยใช้ยาชาเฉพาะบริเวณจมูก
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด การเสริมจมูกแบบปิด
การดูแลหลังผ่าตัดหลังผ่าตัด การเสริมจมูกแบบปิด
การเสริมจมูกเทคนิคนี้จะเน้นการปรับแต่งโครงสร้างจมูกร่วมด้วย เช่น การเย็บตกแต่งปลายกระดูกอ่อน หรือการแก้ไขปลายจมูกที่ผิดรูป การเสริมจมูกเทคนิคนี้ แพทย์ผู้ผ่าตัดจะเปิดแผลบริเวณด้านหน้าระหว่างรูจมูกทั้งสองข้างร่วมด้วย(นอกเหนือจากแผลในรูจมูกทั้งสองข้าง) เพื่อเปิดพื้นที่ผ่าตัดให้เห็นชัดเพียงพอต่อการปรับแต่งโครงสร้างจมูกด้านในร่วมด้วย เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีจมูกลักษณะเป็นชมพู่ หรือปลายจมูกใหญ่ เพื่อต้องการให้ปลายจมูกเล็กลง และมีรูปทรงที่ดีขึ้น การเสริมจมูก แบบ Open ทำได้ทั้งใส่ซิลิโคน และไม่ใส่ซิลิโคน ผลออกมาเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เป็นที่น่าพอใจสำหรับคนไข้จะเห็นว่าการเสริมจมูกเทคนิคนี้เน้นการปรับแต่งโครงสร้างเป็นหลัก
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด เสริมจมูกแบบเปิด
การดูแลหลังผ่าตัด เสริมจมูกแบบเปิด
เนื้อเยื่อเทียม
เนื้อเยื่อเทียม (Acellular dermal Metrix) มาจาก ประเทศเกาหลี ผลิตมาจากเนื้อเยื่อ ผ่านกระบวนการ ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่สามารถ ทำลาย หรือ กำจัดเศษ เซลล์ที่ตายแล้ว (Cell Debris), Antigens และ ไวรัสต่างๆ ได้ ด้วยการ ฆ่าเชื้อ ด้วยรังสี E-beam และ ผ่านการทดสอบแล้ว
ถึงแม้เนื้อเยื่อเทียมจะถูกทำลาย ด้วยการฆ่าเชื้อและกำจัดเซลล์ออกแล้ว แต่ยังคงโครงสร้าง สามมิติ ของผิวหนัง ไว้ได้ ทำให้มีการสร้างเส้นเลือดใหม่ การเติบโตของเส้นประสาท และ การสร้าง คอลลาเจนต่างๆได้อีกด้วย และไม่เป็นอันตราย
ใครที่เหมาะกับการเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม
ผู้ที่มีจมูก สั้น มีเนื้อจมูกน้อย
ผู้ที่ต้องการปลายจมูกพุ่ง
กลัวทะลุ ปลายจมูกบาง
ผู้ที่ไม่ประสงค์ผ่าตัดเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู